คุณสมบัติของไส้กรองอากาศ k&n
THE WORLD’S BEST AIR FILTER K&N ได้พัฒนาและผลิตระบบไส้กรองอากาศที่ดีที่สุดในโลก เป็นไส้กรองที่อากาศสามารถผ่านได้มากกว่าไส้กรองแบบกระดาษถึง 70% อุดตันช้ากว่า 3-4 เท่า มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น สูงกว่าไส้กรองแบบกระดาษแท้ที่ติดรถมา K&N จึงเป็นไส้ กรองอากาศลูกสุดท้ายที่ท่านจะซื้อสำหรับรถของท่าน ง่ายต่อการดูแลรักษา ไส้กรองอากาศ K&Nสามารถใช้งานจนกระทั่งฝุ่นจับจนมองไม่เห็นเส้นลวด จึงค่อยถอดมาล้างทำความสะอาด ท่านจะรู้สึกถึงกำลังที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์เนื่องจากอากาศที่สามารถผ่านเข้าเครื่องยนต์ได้มากกว่า อีกทั้งประหยัดน้ำมันขึ้น จากเนื้อฝ้ายเกรดพิเศษและน้ำมันที่เคลือบ อากาศจะผ่านได้มาก และสะดวกแต่ ฝุ่นจะถูกจัดอยู่บนผิวไส้กรองอากาศด้านนอกซึ่งต่างกับไส้กรองอากาศแบบกระดาษที่ฝุ่นจะทำให้เกิดการอุดตันภายในรูกระดาษหรือท่านจะเสี่ยงให้ฝุ่นเข้าเครื่องยนต์กับไส้กรองแบบฟองน้ำ รับประกันตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ท่านจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวจากนั้น สามารถถอดล้างทำความสะอาด เคลือบน้ำยาและนำกลับมาใช้ได้อีกครั้งแล้วครั้งเล่าเจาะจงเลือกใช้แต่น้ำยาล้างและเคลือบของ K&N เท่านั้น มิเช่นนั้นเนื้อฝ้ายจะเสียหาย อย่างรวดเร็ว ไส้กรองที่ออกแบบมาใช้ร่วมกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์โดยเฉพาะ
และเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันทุกประเภท ไส้กรองที่ออกแบบมาใช้ร่วมกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์โดยเฉพาะ และเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันทุกประเภท ตามปกติไส้กรองกระดาษจะต้องเป่าทำความสะอาดทุกๆ 5,000 กม. และเปลี่ยนใหม่ทุก 10,000 กม. แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า เมื่อฝุ่นละอองเข้าไปจับในรูกระดาษแล้ว จะไม่สามารถเป่าฝุ่นละอองขนาดเล็กๆ ออก ทำให้เนื้อที่กระดาษที่อากาศผ่านได้น้อยลง เมื่อการใช้ถึงระยะ 7,000-8,000 กม. ไส้กรองจะเริ่มตัน จนอากาศเข้าเครื่องยนต์ไม่เพียงพอ ส่วนผสมของน้ำมันและอากาศเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดควันดำ สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ไม่มีกำลัง
ซึ่งหลายท่านอาจไม่ตระหนักถึงข้อเสียนี้ ยกตัวอย่างรถท่านกินน้ำมันเชื้อเพลิง 10 กม./ลิตร เมื่อใช้ไส้กรองอากาศใหม่ หากไส้กรองเริ่มอุดตันที่ 7,500 กม. ที่เหลืออีก 2,500 กม. รถของท่านกินน้ำมัน 8 กม./ลิตร หมายถึงท่านสิ้นเปลืองน้ำมันไป 62.5 ลิตรX26 บาท/ลิตร = 1,625 บาท ที่ท่านเสียไปเปล่าๆ ทุกๆ 10,000 กม. แถมสร้างมลพิษทางอากาศจากควันดำ ในขณะที่ไส้กรอง K&N จะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ แต่ช่วยท่านประหยัด ยิ่งใช้รถมากเท่าใด ยิ่งประหยัดมากขึ้นเท่านั้น
1. คลื่นอากาศจะถูกเรียงเป็นแนวตรงก่อนเข้าเครื่องยนต์ 2. ผ้าฝ้าย 4 ชั้นเคลือบด้วยน้ำมัน 3. ฝุ่นที่จับอยู่ผิวไส้กรองจะไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน อากาศยังคงผ่านได้อย่างสะดวก 4. ฝุ่นหยาบจะเปรียบเสมือนกรองชั้นนอก 5. โครงลวดหุ้มผ้าฝ้ายช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผ้ากรอง เนื่องจากไส้กรองอากาศ K&N ทำจากฝ้ายเกรดสูงสุดที่ใช้ในการผ่าตัดนำมาพับ 4 ชั้น แล้วอบด้วยความร้อนเพื่อให้เนื้อผ้าฝ้ายยึดติดกันจากนั้นเสริมด้วย โครงลวดสแตนเลส เพื่อความแข็งแรงสุดท้ายเคลือบด้วยน้ำมัน อากาศจะผ่านไส้กรอง ได้มากกว่ากระดาษกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ฝุ่นจะถูกจับที่ผิวจากน้ำมันที่เคลือบไว้
โดยประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นของไส้กรอง K&N จะสูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไส้กรองกระดาษจะมีประสิทธิภาพการกรองเพียง 92-94 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพในการกรองหมายถึง ปริมาณที่จับฝุ่นได้ 98 เปอร์เซ็นต์ แต่จะยอมให้ฝุ่นผ่านเข้าในเครื่องยนต์ 2 เปอร์เซ็นต์ ไส้กรองอากาศจะไม่วัดเป็นไมครอนตามที่เข้าใจกัน ผลของอากาศที่ผ่านได้มากกว่าจะช่วยเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์ท่านอีกไม่น้อยกว่า 2-3 แรงม้า ท่านจะรู้สึกได้ โดยทันทีว่าเครื่องยนต์ลื่นขึ้น และมีกำลังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วง Kick down ในเกียร์ออโตเมติคท่านจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับไส้กรองกระดาษ ในสภาพการใช้งานบนท้องถนนตามปกติในประเทศไทย K&N แนะนำให้ถอดล้างทำความสะอาดประมาณทุก 20,000 กม. หรือจนกระทั่งฝุ่นจับจนไม่เห็นเส้นลวด(ไม่จำเป็นต้องล้างบ่อยนักเพราะจะทำให้อายุไส้กรองสั้นโดยไม่จำเป็น) ไส้กรอง K&N สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ถึง 25 ครั้ง เจาะจงเลือกใช้แต่น้ำยาล้าง และน้ำยาเคลือบของ K&N เท่านั้น การใช้ผงซักฟอกหรือเบนซินล้างจะทำให้เนื้อฝ้ายเปื่อยและเสียรูปอย่างรวดเร็ว